jesus image

จะรู้ว่าพระเยซูคริสต์ประทับอยู่ในชีวิตของท่านได้อย่างไร ?
ท่านได้อธิษฐานต้อนรับพระเยซูคริสต์เข้ามาในชีวิตของท่านหรือยัง ? ตามพระสัญญาที่พระองค์ให้ไว้ในพระธรรม วิวรณ์ 3:20 นั้น เดี๋ยวนี้พระองค์ประทับอยู่ที่ไหน ? พระเยซูคริสต์ตรัสว่า พระองค์จะเสด็จเข้ามาประทับในชีวิตของท่าน ท่านคิดว่าพระองค์ทรงหลอกลวงท่านไหม ? ท่านรู้ได้อย่างไรว่า พระเจ้าได้ทรงตอบคำอธิษฐาน ของท่านแล้ว ? (รู้ได้โดยพระเจ้าผู้ทรงไว้ซึ่งความซื่อสัตย์ และโดยพระวจนะของพระองค์ พระเจ้าทรงรักษาพระสัญญาของพระองค์เสมอ) ? 

พระคัมภีร์สัญญาว่า ผู้ใดที่ต้อนรับพระเยซูคริสต์ ผู้นั้นจะได้ชีวิตนิรันดร์ 
"และพยานหลักฐานนั้น คือว่าพระเจ้าได้ทรงโปรดประทานชีวิตนิรันดร์ให้เราทั้งหลาย และชีวิตนี้มีอยู่ในพระบุตรของพระองค์ ผู้ที่มีพระบุตรก็มีชีวิต ผู้ที่ไม่มีพระบุตรก็ไม่มีชีวิต ข้อความเหล่านี้ ข้าพเจ้าได้เขียนได้เขียนถึงท่านทั้งหลายที่เชื่อในพระนามพระบุตรของพระเจ้า เพื่อท่านทั้งหลายจะได้รู้ว่า ท่านมีชีวิตนิรันดร์..." (1 ยอห์น 5:11-13) 

จงขอบพระคุณพระเจ้าอยู่เสมอ ที่พระคริสต์ประทับอยู่ในชีวิตของท่าน และพระองค์จะไม่ละทิ้งท่าน (ฮีบรู 13:5) ท่านสามารถที่จะรู้ได้ว่าพระเยซูคริสต์ ผู้ทรงพระชนม์สถิต อยู่ในท่าน และท่านมีชัวิตนิรันดร์ตั้งแต่วินาทีที่ท่านทูลเชิญพระองค์ให้เสด็จเข้ามาในชีวิตของท่าน ตามพระสัญญาของพระองค์ พระองค์จะไม่ทรงหลอกลวงท่านเป็นอันขาด ส่วนความรู้สึกนั้นเล่าเป็นอย่างไร... ? 

ส่วนความรู้สึกนั้นเล่าเป็นอย่างไร...

อย่าพึ่งพิงความรู้สึก

หน้าที่ของเรา คือ ต้องยึดมั่นในพระสัญญาของพระเจ้าเป็นหลัก มืใช่ถือเอาความรู้สึกของเราเป็นเกณฑ์ คริสเตียนดำรงชีวิตโดยความเชื่อ (ไว้วางใจในพระเจ้า และพระวจนะ ของพระองค์) แผนภาพรถไฟนี้ แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่าง ความจริง (พระเจ้า และพระวจนะของพระองค์) ความเชื่อ (ความไว้วางใจในพระเจ้า และพระวจนะ ของพระองค์) และความรู้สึก (ผลของความเชื่อ และการเชื่อฟัง) ? (ยอห์น 14:21) 

train

ไม่ว่าจะมีตู้โดยสารหรือไม่ก็ตาม รถไฟก็ย่อมที่จะแล่นไปได้เองเสมอ เพราะตู้ผู้โดยสารนั้น มิได้มีส่วนช่วยในการฉุดลากรถไฟให้เคลื่อนที่แต่อย่างใด หากแต่ต้องเชื่อ (ไว้วางใจ) ในพระเจ้า และพระสัญญาของพระองค์ 


เมื่อท่านรับพระเยซูคริสต์แล้ว 

ในทันทีที่ท่านรับเอาพระเยซูคริสต์โดยความเชื่อนั้น มีหลายสิ่งหลายอย่างได้เกิดขึ้นในชีวิตของท่าน รวมทั้งสิ่งที่กล่าวต่อไปนี้ด้วย :

  1. พระเยซูคริสต์ได้เสด็จเข้ามาประทับในชีวิตของท่านแล้ว (วิวรณ์ 3:20 ; โคโลสี 1:27)

  2. ท่านได้รับการอภัยโทษบาปแล้ว (โคโลสี 1:14)

  3. ท่านได้กลายเป็นบุตรของพระเจ้าแล้ว (ยอห์น 1:12)

  4. ท่านได้รับชีวิตนิรันดร์แล้ว (ยอห์น 5:24)

  5. ท่านเริ่มเผชิญชีวิตที่ตื่นเต้นตามที่พระเจ้ามีแผนการใว้ให้แก่ท่านแล้ว (ยอห์น 10:10; 2 โครินธ์ 5:17 ; 1 เธสะโลนิกา 5:18)

ท่านลองคิดดูว่า มีอะไรที่ประเสริฐยิ่งกว่าการรับพระเยซูคริสต์ ท่านอยากจะอธิษฐานขอบพระคุณพระเจ้า สำหรับสิ่งที่พระองค์ทรงกระทำเพื่อท่านเดี๋ยวนี้ไหม ? การขอบพระคุณพระเจ้า เป็นการสำแดงออกซึ่งความเชื่อที่เรามีต่อพระองค์ 

แนวทางปฏิบัติเพื่อให้ชีวิตคริสเตียนจำเริญขึ้น... 


แนวทางปฏิบัติเพื่อให้ชีวิตคริสเตียนจำเริญขึ้น 

การเติบโตฝ่ายวิญญาณ ก็เนื่องมาจากความเชื่อ และไว้วางใจในพระเยซูคริสต์ "คนชอบธรรมจะมีชีวิตดำรงอยู่โดยความเชื่อ" (กาละเทีย 3:11) การดำเนินชีวิตโดยความเชื่อ จะช่วยให้ท่านไว้วางใจในพระเจ้าในทุกด้านมากขึ้นเป็นลำดับ และทำให้ท่านสามารถปฏิบัติตามข้อแนะนำ 6 อ. ต่อไปนี้ :

     
    อธิษฐาน เข้าเฝ้าพระเจ้าเป็นประจำทุกวัน (ยอห์น 15:7)
    อ่าน พระคัมภีร์ทุกวัน (กิจการ 17:11); เริ่มด้วยพระธรรมยอห์น
    อ่อนน้อม เชื่อฟังพระเจ้าทุกลมหายใจ (ยอห์น 14:21)
    ออกไป ประกาศและเป็นพยานเรื่องราวของพระเยซูคริสต์ ด้วยชีวิตและวาจา (มัทธิว 4:19; ยอห์น 15:8)
    อ้างเอา พระเจ้าเป็นที่พึ่งในทุกด้านของชีวิต (1 เปโตร 5:7)
    เอาพระวิญญาณบริสุทธิ์ เป็นผู้นำ และควบคุมชีวิตของท่าน (กาละเทีย 5:16,17; กิจการ 1:8)

ความสำคัญของการเป็นสมาชิกคริสตจักร

พระเจ้าทรงบัญชาไว้ในพระธรรม ฮีบรู 10:25 ว่า "ซึ่งเราเคยประชุมกันนั้น อย่าให้หยุด..." ถ่านติดไฟรวมกัน ย่อมให้ความร้อน แต่ถ้าแยกเอาถ่านแต่ละก้อนออกจากกองไฟ ในไม่ช้าถ่านแต่ละก้อนก็จะดับลง ความสัมพันธ์ของท่าน และคริสเตียนทั้งหลายที่มีต่อพระเจ้าก็เป็นเช่นนั้น 

ถ้าท่านยังไม่ได้เป็นสมาชิกคริสตจักรหนึ่ง คริสตจักรใด ควรไปคริสตจักรที่อยู่ใกล้บ้านท่าน ซึ่งเป็นคริสตจักรที่ถวายเกียรติแด่พระเจ้า และประกาศพระกิตติคุณของพระองค์ แจ้งความจำนงขอเป็นสมาชิก แล้วเริ่มไปนมัสการพระเจ้าในคริสตจักรนั้น ในสัปดาห์ที่จะถึง และในสัปดาห์ต่อๆไป 

แบบฟอร์มการตัดสินใจ และขอรายละเอียดเพิ่มเติม